Header Ads

จับตามอง สงครามโอ้อวด เหมือนเด็กหาเรื่อง ระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ


เป็นช่วงเวลาที่ร้อนรุ่นที่สุดของโลก เมื่อเกาหลีเหนือออกมาท้าทายว่าพร้อมที่จะยิงขีปนาวุธ 4 ลูกเข้าใกล้เกาะกวม ดินแดนของสหรัฐ ดุเดือดเลยทีเดียว ด้วยท่าทีแข็งกร่าว ระหว่าผู้นำสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ กาหลีเหนือประกาศเป็นครั้งแรกว่าจะโจมตีกวมซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายทหารสหรัฐ และประชาชนอีกมากกว่า 163,000 คน และในวันนี้ประกาศว่าการโจมตีอาจมีขึ้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 

สื่อของทางการเกาหลีเหนือ รายงานด้วยว่า หากแผนการนี้ได้รับความเห็นชอบจากนายคิม จองอึน ผู้นำประเทศขีปนาวุธฮวาซอง-12 จะเดินทางข้ามญี่ปุ่นและตกห่างจากกวมประมาณ 30 กิโลเมตร ในเวลาประมาณ 1,065 วินาที ทั้งตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ว่าไร้เหตุผล ทั้งวิจารณ์ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้วิธีหารืออย่างมีเหตุผล กับคนที่ไม่มีเหตุผล ดังนั้นการใช้กำลังจึงเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการตีความสภาพการณ์อันตึงเครียดนี้อย่างผิดพลาดอาจนำไปสู่การก่อสงครามโดยไม่ตั้งใจ
นายดาริล คิมบอลล์ แห่งสมาคมควบคุมอาวุธ (Arms Control Association) องค์กรมันสมองของสหรัฐฯ บอกกับบีบีซีว่ามีความเป็นไปได้หลายทางที่ต่างฝ่ายต่างประเมินผิดจนควบคุมสถานการณ์ไม่อยู
นายโครว์ลีย์ เห็นว่าการข่มขู่ของเกาหลีเหนือและการตอบโต้ของสหรัฐฯ อย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ว่าในครั้งนี้นายทรัมป์ดูจะชี้ให้เห็นว่าสหรัฐฯ พร้อมลงมือก่อน (แม้ว่านายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศ จะต้องออกมาคลี่คลายสถานการณ์ในภายหลัง)
แม้นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่าคำพูดชวนทะเลาะที่ออกจากปากผู้นำสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวล แต่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นฝ่ายที่ต้องสูญเสียหนักที่สุดดูจะไม่เป็นห่วงมากมายจนเกินเลย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้มองว่าสถานการณ์ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต และน่าจะแก้ปัญหากันได้อย่างสันติและนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้มองสถานการณ์ในแง่ดีไว้ก่อนได้

ที่มา http://www.bbc.com/thai/international-40883983?ocid=socialflow_facebook
ขับเคลื่อนโดย Blogger.